จ.ราชบุรี ผนึกกำลังกับ อบจ.ราชบุรี ประสานแผนทุ่มงบประมาณ 650 ล้านบาท พัฒนาหุบผาสวรรค์เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์
การพัฒนาหุบผาสวรรค์เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ ได้ถูกวางแผนจัดสรรงบประมาณไว้ ด้งนี้
- ตามแผนพัฒนา จ.ราชบุรี พ.ศ.2566-2570 ใช้งบประมาณจำนวน 35 ล้านบาท (ปี พ.ศ.2566 จำนวน 15 ล้านบาท ทีเหลือ 4 ปี ปีละ 5 ล้านบาท)
- ตามแผนพัฒนาท้องถิ่น (พ.ศ.2566-2570) ขอใช้งบประมาณในปี พ.ศ.2556 จำนวน 615 ล้านบาท แยกเป็น
- โครงการศึกษาและออกแบบพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวหุบผาสรรค์ จำนวน 15 ล้านบาท
- โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวหุบผาสวรรค์และพื้นที่โดยรอบ จำนวน 600 ล้านบาท
การพัฒนาหุบผาสวรรค์นี้อยู่ ในโครงการเมืองอุตสาหกรรมท่องเที่ยวคุณภาพ ในยุทธศาสตร์ที่ 2 สร้างมูลค่าและคุณค่าเพิ่มจากการท่องเที่ยวและบริการวิถีใหม่อย่างมีคุณภาพบนฐานอัตลักษณ์ชุมชนเชิงสร้างสรรค์ โดยมีผลที่คาดว่าจะได้รับ ดังนี้
- สถานที่ท่องเที่ยวได้รับการพัฒนาศักยภาพยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยว
- มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรมของ จ.ราชบุรี
- รายได้ของชุมชนมากขึ้น
- แหล่งท่องเที่ยวของ จ.ราชบุรี เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั้งในกลุ่มคนไทยและชาวต่างประเทศ
- โครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวมีการพัฒนามากขึ้น
- สถานที่ท่องเที่ยวได้มาตรฐานมากขึ้น
- สถานที่ท่องเที่ยวมีอัตลักษณ์และโดดเด่น
โดยมีตัวชี้วัดคือ ร้อยละของจำนวนนักท่องเที่ยว และร้อยละของรายได้ของประชาชนในพื้นที่โดยรอบ
The Story ของหุบผาสวรรค์
เรื่องย่อ : เรื่องราวเริ่มต้นมาจากการก่อตั้ง "สำนักปู่สวรรค์" ตามมติของโลกวิญญาณ คือ พรหมโลก เทวโลก นรกโลก โดยมอบให้พระวิญญาณของพระโพธิสัตว์หลวงปู่ทวด (เหยียบน้ำทะเลจืด ) เป็นประธานสำนักปู่สวรรค์ในโลกมนุษย์ ดวงพระวิญญาณของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)พรหมรังษี เป็นองค์อำนวยการสำนักปู่สวรรค์ในโลกมนุษย์ และดวงพระวิญญาณท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระ เป็นที่ปรึกษาและเจ้าพิธีการของสำนักปู่สวรรค์ในโลกมนุษย์ โดยอาศัยร่าง อาจารย์สุชาติ โกศลกิติวงศ์ บรมครูผู้ซึ่งมีกรรมพัวพันและมีพลังจิตสูง เป็นสื่อกลางในการติดต่อระหว่างโลกมนุษย์กับโลกวิญญาณ และเป็นร่างทรงของดวงพระวิญญาณทั้ง 3 องค์ อ.สุชาติฯ ได้เริ่มเข้าทรงเพื่อรักษาคนป่วยด้วยน้ำมนต์และสมุนไพรตั้งแต่ปี พ.ศ.2509 เป็นต้นมา โดยจัดตั้งเป็น "สำนักปู่สวรรค์" โดยมีที่ตั้งสำนักครั้งสุดท้ายที่ซอยจตุรงค์สงคราม ถ.เพชรเกษม เขตบางแค กทม. สำนักปู่สวรรค์นี้ บริหารงานภายใต้ มูลนิธิชินนะปูโตอนุสรณ์
ต่อมาทางโลกวิญญาณได้ประเมินว่า ปัจจุบันมนุษย์ส่วนใหญ่ในโลกยังไม่เข้าซึ้งถึงธรรมะของแต่ละศาสนาที่ตนเองนับถือ โลกวิญญาณจึงมีบัญชาให้ อ.สุชาติ โกศลกิติวงศ์ เดินทางมุ่งหน้าไปหาสถานที่อันสงบเหมาะสมที่จะปฏิบัติจิตศึกษาธรรมะ ต่อมาเดือน พ.ค.2513 อ.สุชาติ กับสามเณรรูปหนึ่ง จึงเดินทางสู่จังหวัดราชบุรี มุ่งหาสถานที่ตามบัญชาของโลกวิญญาณ ก็เดินทางมาถึงสถานที่แห่งหนึ่งเรียกกันในถิ่นนั้นว่า "เทือกเขาเสือหมอบ" (เขาถ้ำพระ) ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
เขาถ้ำพระถูกสร้างขึ้นเป็น "อาณาจักรหุบผาสวรรค์เมืองศาสนา" เริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี พ.ศ.2513 โดย อ.สุชาติ โกศลกิติวงศ์ และคณะสานุศิษย์สำนักปู่สวรรค์ เพื่อให้เป็นสถานที่สร้างสันติภาพโลก และดำเนินการตามอุดมการณ์ข้อหนึ่งใน 10 ข้อที่สำนักปู่สวรรค์ยึดมั่นคือ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์และสันติภาพเป็นสรณะ โดยได้รับอนุญาตจากกรมศิลปากร (น.อ.สมภพ ภิรมย์ เป็นอธิบดี) อนุญาตให้ ศ.ดร.คลุ้ม วัชโรบล อุปนายกมูลนิธิชินนะปูโตอนุสรณ์ ใช้พื้นที่ในการก่อสร้างและเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมได้ตามอุดมการณ์เพื่อสันติสุขในประเทศไทยและโลกมนุษย์ และต่อมาได้ใช้เป็นที่ตั้งของสำนักงานของสมาคมศาสนาสัมพันธ์อีกด้วย (ในปี พ.ศ.2516 อ.ุสุชาติ ได้รับการแต่งตั้งเป็น ทูตสันติภาพแห่งโลกวิญญาณ และ พ.ศ. 2518 ได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมศาสนาสัมพันธ์)
ในขณะนั้น โลกกำลังเผชิญสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างลัทธิคอมมิวนิสต์ กับเสรีประชาธิปไตย เสี่ยงที่จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ขึ้น หุบผาสวรรค์เมืองศาสนาซึ่งเป็นองค์กรเอกชนที่ดำเนินการเพื่อความเป็นเอกราชของชาติไทย ด้วยการรณรงค์อย่างแข็งขันเพื่อสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในโลกมนุษย์ รวมถึงต้องต่อสู้กับอิทธิพลนายทุน ที่ทำการระเบิดหินในพื้นที่ เพื่อที่จะอนุรักษ์ไว้ซึ่งเทือกเขาที่เป็นแหล่งประวัติศาสนาทางพุทธศาสนาในแหลมสุวรรณภูมิ
การดำเนินงานของหุบผาสวรรค์ ทำให้มีผู้ที่เสียประโยชน์เป็นจำนวนมาก จึงมีสร้างข่าวบิดเบือนให้สังคมเข้าใจผิด หุบผาสวรรค์เมืองศาสนาต้องถูกกลั่นแกล้งและประสบมรสุมขนาดใหญ่ 2 ครั้งในปี พ.ศ.2525 และอีกครั้งในปี พ.ศ.2534 อ.สุชาติฯ ผู้ก่อตั้งหุบผาสวรรค์ ถูกตั้งข้อหาดำเนินคดีถึง 7 คดี (ต่อมาถึงที่สุด ทุกคดีศาลตัดสินยกฟ้องทั้งหมด) คดีสุดท้ายคือถูกกล่าวหาว่าบุกรุกโบราณสถาน ศาลฎีกาพิพากษาว่า ไม่มีเจตนาบุกรุก เพราะมีหลักฐานการอนุญาตจากกรมศิลปากรให้ใช้พื้นที่ แต่อย่างไรก็ตาม หุบผาสวรรค์เมืองศาสนาก็จำต้องยุติการดำเนินงานลงในที่สุด
การสร้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และประติมากรรม บนเขาถ้ำพระในหุบผาสวรรค์ สื่อความว่า พระศาสดาแต่ละศาสนาล้วนก่อตั้งศาสนาขึ้นมาเพื่อสร้างสันติสุขแก่มวลมนุษยชาติ เป็นการสร้างภราดรภาพทางศาสนา นำพลังศาสนามาสร้างสันติสุข ไม่ใช่การรวมศาสนา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และประติมากรรมที่สำคัญในหุบผาสวรรค์เมืองศาสนา ประกอบด้วย
- สันติเจดีย์ (บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ) ณ ยอดเขาถ้ำพระ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ เคยมีการจัดพิธีสักการะทุกวันที่ 19 ของเดือน
- พระพุทธถวายเนตรนิรภัยทุกทิศ (ปางถวายเนตร สูง 9 เมตร หันพระพักตร์ไปทางสันติเจดีย์)
- องค์สมมติพระเยซูคริสต์ประทานพร (สูง 9 เมตร หันพระพักตร์ไปทางสันติเจดีย์)
- องค์พระพิฆเนศ (สูง 9 เมตร หันพระพักตร์ไปทางสันติเจดีย์)
- พระแม่กวนกิม (สูง 9 เมตร หันพระพักตร์ไปทางสันติเจดีย์)
- พระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
- ถ้ำสิงห์มงคลบุญบำรุง (ลงพลังจิตผ้ายันต์พิทักษ์เอกราช)
- หอประชุมสันติภาพ
- ศาลาชินนะปูโตอนุสรณ์
- พระพุทธคันธาราษฎร์
- หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด (ถ้ำสาลิกา)
- พระเสาร์ทรงเสือ(ผู้อำนวยพรแก่การกสิกรรม)
- หอระฆังสันติภาพ
การปะท้วงของชาวราชบุรี ที่ต่อต้านหุบผาสวรรค์ |
The Story ของอาณาจักรหุบผาสวรรค์เมืองศาสนา นี้ แลดูเป็นสีเทา ๆ สามารถมองได้หลายแง่มุม มีทั้งคนที่ศรัทธาและคนที่ต้อต้าน ขึ้นอยู่ว่าจะเลือกมองมุมไหน หนังสือหลายเล่มที่พิมพ์ออกมาตีแผ่ข้อเท็จจริงของหุบผาสวรรค์ในปี พ.ศ.2524 เช่น ผีบุญแห่งหุบผาสวรรค์ ผีบุญสุชาติแห่งหุบผานรก และวันสิ้นชาติไทย ส่งผลให้อาณาจักรหุบผาสวรรค์เมืองแห่งศาสนาต้องล่มสลายในที่สุด
และปัญหาต่อมาในการที่จะพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ ก็คือ จะนำเสนอข้อมูลต่อนักท่องเที่ยวในแง่มุมใด หุบผาสวรรค์เป็นพระเอกที่ถูกกลั่นแกล้ง หรือ เป็นผู้ร้ายที่ถูกยกย่อง ปรัชญาของศาสนา สันติภาพ และโลกวิญญาณ จะผูกร้อยเรื่องราวอย่างไรผ่านหุบผาสวรรค์ แห่งนี้
ทำไม? ถึงเลือกหุบผาสวรรค์
คำถามถูกตั้งขึ้นมาในใจ ทำไม? ถึงเลือกพัฒนาหุบผาสวรรค์เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ โดยใช้เงินงบประมาณสูงถึง 650 ล้านบาท แล้วจะทำอะไรกันบ้าง
เมื่อ 5 พ.ย.2562 นายเทวัญ ลิปภพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะลงพื้นที่ตรวจราชการที่สถาบันพระสังฆาธิการ และร่วมประชุมหารือการพัฒนาพื้นที่เขาถ้ำพระและ "หุบผาสวรรค์" เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของ อ.ปากท่อ โดยมี นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ ส.ส.ราชบุรี ในเขตพื้นที่เข้าร่วมประชุมด้วย (อนุมานว่านางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ น่าจะเป็นแรงสำคัญในการผลักดัน) ในที่ประชุมมีแนวคิดนำเสนอ "การสร้างรถราง และกระเช้าเชื่อมต่อชมความสวยงามทั้ง 3 หุบเขาของหุบผาสวรรค์ ได้แก่ หุบเขาที่ตั้งพระเยซู หุบเขาที่ตั้งพระพุทธรูปยืน และหุบเขาที่ตั้งของสันติเจดีย์ เพื่อเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของราชบุรี" ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณจำนวน 600 ล้านบาท ในการดำเนินการดังกล่าว
หลังจากนายวิวัฒน์ นิติกาญจนา ได้รับเลือกตั้งเป็น นายก อบจ.ราชบุรี เมื่อปลายปี พ.ศ.2563 ก็พยายามผลักดันการพัฒนาหุบผาสวรรค์เป็นแหล่งท่องเที่ยวมาโดยตลอด
วันที่ 19 ต.ค.2564 นายพงษ์พันธ์ แสงสุวรรณ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการบริหารราชการและส่งเสริมการท่องเที่ยว และคณะของ อบจ.ราชบุรี ลงพื้นที่สถาบันพระสังฆาธิการ (หุบผาสวรรค์) หลังได้รับการประสานจากนายธานี พิกุลทอง ผู้อำนวยการสถาบันพระสังฆาธิการ ให้ทาง อบจ.ราชบุรี สนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงภูมิทัศน์ของหุบผาสวรรค์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.ราชบุรี ต่อไป
ต่อมาวันที่ 26 พ.ย.2564 อบจ.ราชบุรี ก็ประกาศใช้แผนพัฒนาท้องถิ่น (พ.ศ.2566-2570) วางแผนใช้งบประมาณการพัฒนาหุบผาสวรรค์เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ จำนวน 615 ล้านบาทในปี พ.ศ.2566
ต่อมาวันที่ 31 ธ.ค.2564-1 ม.ค.2565 นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายก อบจ.ราชบุรี ก็จัดงาน "คืนถิ่นวัฒนธรรมหุบผาสวรรค์" โดยมุ่งหวังที่จะพัฒนาพื้นที่หุบผาสวรรค์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
การพัฒนาหุบผาสวรรค์เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ของ อ.ปากท่อ ในครั้งนี้ ผู้ที่เป็นแรงผลักดันคนสำคัญ จึงน่าจะเป็นนายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายก อบจ.ราชบุรี และ นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ
ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวไม่ว่าแหล่งใดก็ตาม นับว่าเป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น แต่ในท่ามกลางวิกฤตงบประมาณของประเทศในอนาคตที่มีอยู่อย่างจำนวนจำกัด การใช้เงินงบประมาณจำนวนมาก ระดับเป็น 100 ล้านบาทขึ้นไป จึงควรต้องระมัดระวัง ไตร่ตรองให้รอบครอบ การใช้เงิน 650 ล้านบาทพัฒนาหุบผาสวรรค์ในครั้งนี้ ควรต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้และความสำเร็จของโครงการ ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ความคุ้มค่าในการลงทุน และความสามารถในการดำรงอยู่ของการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว การศึกษาตามแนวคิดองค์ประกอบการท่องเที่ยวทั้ง 6 ประการ (6A) ของหุบผาสววรค์นี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจและนำมาพิจารณา ได้แก่
- ทรัพยากรการท่องเที่ยว (Attraction) ทรัพยากรการท่องเที่ยวของหุบผาสวรรค์ ต้องสามารถดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวได้ มีลักษณะชวนตา ชวนใจ มีเสน่ห์เฉพาะตัว
- การเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว (Accessibility) นักท่องเที่ยวต้องสามารถเดินทางเข้าถึงหุบผาสวรรค์ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย มีป้ายบอกทางชัดเจน สภาพถนนมีมาตรฐาน รองรับยานพาหนะได้อย่างหลากหลายรูปแบบ และมีไฟฟ้าส่องสว่าง
- สิ่งอำนวยความสะดวก (Amenity) หุบผาสวรรค์ต้องมีความสะดวกสบายในการท่องเที่ยว มีสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐานในการท่องเที่ยวอย่างเพียงพอ เช่น ไฟฟ้า น้ำ สัญญาณโทรศัพท์
- ที่พักแรม (Accommodation) มีที่พักแรมที่ใกล้กับหุบผาสวรรค์ หรือหุบผาสวรรค์อาจจัดให้มีบริการที่พัก หรือที่กางเต้นท์ในพื้นที่หุบผาสวรรค์เอง
- กิจกรรม (Activity) กิจกรรมการท่องเที่ยวที่หุบผาสวรรค์จัดให้มีขึ้น ต้องน่าสนใจ มีความเหมาะสมและปลอดภัย
- การบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว (Ancillary Service) หุบผาสวรรค์ต้องมีบริการด้านต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว เช่น ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จุดให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ ร้านจำหน่ายของที่ระลึก ห้องน้ำ-ห้องสุขา ตู้ ATM ฯลฯ
องค์ประกอบทั้ง 6 ประการ นับเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของการพัฒนาหุบผาสวรรค์เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ งบประมาณการพัฒนาที่สูงมากถึงจำนวน 650 ล้านบาทนี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เพื่อสร้างรถรางขึ้นเขาและกระเช้าเชื่อม 3 หุบเขาเป็นสำคัญ*** (หมายเหตุ *** เป็นการอนุมานส่วนตัว เพราะไม่มีรายละเอียดโครงการที่เผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบ) ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจเป็นแค่เพียงทรัพยากรที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวได้ชั่วคราว แต่ไม่ใช่เสน่ห์ที่แท้จริงของหุบผาสวรรค์
แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ควรมีความร่มเย็น มีธรรมชาติที่สวยงาม เป็นแหล่งที่สงบทางจิตใจ สะท้อนให้เห็นถึงอารยะธรรม ประวัติศาสตร์ โบราณสถาน ศิลปะ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นดั้งเดิม
หากทางราชการทุ่มงบประมาณแผ่นดินจำนวน 650 ล้านบาท เพื่อพัฒนาหุบผาสวรรค์ ซึ่งถือเป็นงบลงทุน เราลองมาคำนวณ จุดคุ้มทุน (Break Even Point) แบบง่าย ๆ กันดูว่าจะมีหน้าตาจะเป็นอย่างไร โดยตั้งสมมติฐาน ไว้ว่า
- รายจ่าย
- รายจ่ายเงินลงทุนในปี 2566 จำนวน 630 ล้านบาท และในอีก 4 ปีต่อไป ปีละ 5 ล้านบาท
- ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวหุบผาสวรรค์ โดยสถาบันพระสังฆาธิการ ปีละ 1 ล้านบาท
- รายได้
- จ.ราชบุรี มีรายได้จากการท่องเที่ยวหุบผาสวรรค์ ปีละ 20 ล้านบาท โดยเริ่มเปิดบริการท่องเที่ยวตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป
หากลองคำนวณจุดคุ้มทุนตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ดังกราฟด้านบน จะพบว่าการลงทุนทุ่มเงินงบประมาณจำนวน 650 ล้านบาท ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวหุบผาสวรรค์ครั้งนี้ จะไปคุ้มทุนในปี พ.ศ.2601 หรืออีก 36 ปีข้างหน้า
หากดูตัวเลขแบบนี้ ก็น่าจะพอยอมรับได้ แต่หมายถึง จ.ราชบุรี ต้องมีรายได้จากการท่องเที่ยวหุบผาสวรรค์ อย่างน้อย ปีละ 20 ล้านบาท
การใช้งบประมาณแผ่นดิน ภายใต้วิกฤติการด้านเศรษฐกิจและงบประมาณของประเทศ ทั้งหนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง จึงอยากให้ข้าราชการพึงวางแผนการใช้งบประมาณทุกบาททุกสตางค์ให้คุ้มค่ามากที่สุด ใช้อย่างชาญฉลาด อย่าใช้ตามความคิดและความอยากของตนเอง ที่สำคัญพึงใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
*****************
เขียนโดย
พลตรี ดร.สุชาต จันทรวงศ์
ผู้อำนวยการสถาบันราชบุรีศึกษา
4 ก.พ.2565
อ้างอิง
- Super User. (2556). ประวัติหุบผาสวรรค์เมืองศาสนา. สวรรค์รำลึก. [Online]. Available : http://poosawan.org/index.php/2013-07-29-04-11-22/80-2013-07-29-03-04-18. [2565 กุมภาพันธ์ 3].
- Super User. (2556). นำชมหุบผาสวรรค์เมืองศาสนา. สวรรค์รำลึก. [Online]. Available : http://poosawan.org/index.php/2013-07-29-04-11-22/80-2013-07-29-03-04-18. [2565 กุมภาพันธ์ 3].
- กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. (2564). ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเยือนหุบผาสวรรค์ในอดีต ปัจจุบันคือสถาบันพระสังฆาธิการ.ธรรมนำโลก. [Online]. Available : https://thamnamlok.com/ผอ-สำนักงานพระพุทธศาสนา/. [2565 กุมภาพันธ์ 3].
- Thai PBS. (2563). ล้มอาณาจักรหุบผาสวรรค์ : ความจริงไม่ตาย (2 ธ.ค. 63). [Online]. Available : https://www.youtube.com/watch?v=VawuMBTH910. [2565 กุมภาพันธ์ 4].
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น