คนราชบุรี กว่าร้อยละ 80 เห็นว่ามาตรการล็อกดาวน์ที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จ และร้อยละ 47.76 อยากให้ล็อกดาวน์ต่อไป และให้มีมาตรการเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม
ราชบุรีโพล โดย สถาบันราชบุรีศึกษา ได้สำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับมาตรการล็อกดาวน์ของ จ.ราชบุรี เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายในพื้นที่ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 1 ใน 29 จังหวัด โดยทำการสำรวจแบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ 7-10 ก.ย.2564 ผลการสำรวจมีระดับความเชื่อมั่น 95% ระดับความคลาดเคลื่อน + 5% (ตารางสำเร็จรูปของ ทาโร ยามาเน่ (Yamane)) แยกรายละเอียด ดังนี้
ผู้ตอบแบบสำรวจฯ จำนวน 559 คน
จากประชากร จ.ราชบุรี 918,674 คน
- อาศัยอยู่ใน จ.ราชบุรี 90.34%
- มีญาติพี่น้องอยู่ใน จ.ราชบุรี 4.84%
- ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ใน จ.ราชบุรีและอื่น ๆ 4.82%
ท่านคิดว่า จ.ราชบุรี ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากมาตรการล็อกดาวน์ในปัจจุบันหรือไม่
- ประสบความสำเร็จมาก 2.33%
- ค่อนข้างประสบความสำเร็จ 14.85%
- ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ 50.27%
- ไม่ประสบความสำเร็จเลย 32.55%
ท่านคิดว่าหลังวันที่ 14 ก.ย.2564 ไปแล้ว จ.ราชบุรี ควรดำเนินการมาตรการล็อกดาวน์ต่อหรือไม่
- ควรดำเนินการต่อเหมือนเดิม แต่ให้มีมาตรการเข้มข้นขึ้น 47.76%
- ควรดำเนินการต่อเหมือนเดิม แต่ให้ผ่อนคลายมาตรการลง 40.96%
- ไม่ควรดำเนินการต่อ 11.28%
ความคิดเห็นต่อมาตรการล็อกดาวน์ ของ จ.ราชบุรี หลังวันที่ 14 ก.ย.2564
เห็นว่า "คงเดิม" เรียงตามจำนวนความเห็นจากมากไปหาน้อย
- อันดับ 1 สถานที่เล่นการพนัน ชนไก่ กัดปลา ชกมวย วัวลาน ฯลฯ ปิดชั่วคราวจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น เห็นว่ายังคงเดิม 469 คน ควรผ่อนคลาย 64 คน และควรยกเลิก 26 คน (คิดเป็นอัตราส่วน 18.04 : 2.46 : 1)
- อันดับ 2 การปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบน้ำ อาบอบนวด สนุ๊กเกอร์ บิลเลียด สวนสนุก โบว์ลิ่ง ตู้เกม เครื่งเล่นเกม สนามเด็ก เครื่องเล่น บ้านลม บ้านบอล ร้านเกม อินเทอร์เน็ต อาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร สอนลีลาศ สถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เห็นว่ายังคงเดิม 397 คน ควรผ่อนคลาย 132 คน ควรยกเลิก 30 คน (คิดเป็นอัตราส่วน 13.23 : 4.40 : 1)
- อันดับ 3 ห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มเกิน 25 คน เห็นว่ายังคงเดิม 382 คน ควรผ่อนคลาย 136 คน ควรยกเลิก 41 คน (คิดเป็นอัตราส่วน 9.32 : 3.32 : 1)
- อันดับ 4 การปิด สถาบันกวดวิชา โรงภาพยนตร์ สวนสนุก สวนน้ำ สระว่ายน้ำ สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส ตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม การจัดเลี้ยง การจัดประชุม เห็นว่ายังคงเดิม 367 คน ควรผ่อนคลาย 156 คน ควรยกเลิก 36 คน (คิดเป็นอัตราส่วน 10.19 : 4.33 : 1)
- อันดับ 5 ร้านอาหารเปิดให้บริการได้ไม่เกิน 20.00 น. งดการจำหน่ายและงดดื่มสุราและแอลกอฮอล์ในร้าน เห็นว่ายังคงเดิม 325 คน ควรผ่อนคลาย 173 คน ควรยกเลิก 61 คน (คิดเป็นอัตราส่วน 5.33 : 2.84 : 1)
- อันดับ 6 ร้านอาหารที่เป็นห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ รวมทั้งร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า ให้นั่งรับประทานได้ไม่เกิน 50% ของพื้นที่ เห็นว่ายังคงเดิม 322 คน ควรผ่อนคลาย 182 คน ควรยกเลิก 55 คน (คิดเป็นอัตราส่วน 5.85 : 3.31 : 1)
- อันดับ 7 การแข่งขันกีฬาไม่อนุญาตให้มีผู้ชมในสนามและต้องจำกัดจำนวนคนที่เข้าร่วมเท่าที่จำเป็น เห็นว่ายังคงเดิม 319 คน ควรผ่อนคลาย 185 คน ควรยกเลิก 55 คน (คิดเป็นอัตราส่วน 5.80 : 3.36 : 1)
- อันดับ 8 ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตีมอลล์ อนุญาตให้เปิดได้ถึง 20.00 น. เห็นว่ายังคงเดิม 316 คน ควรผ่อนคลาย 193 คน ควรยกเลิก 50 คน (คิดเป็นอัตราส่วน 6.32 : 3.86 : 1)
- อันดับ 9 ร้านสะดวกซื้อ ปิด 20.00 น.-04.00 น. เห็นว่ายังคงเดิม 311 คน ควรผ่อนคลาย 197 คน ควรยกเลิก 51 คน (คิดเป็นอัตราส่วน 6.10 : 3.86 : 1)
- อันดับ 10 มาตรการเคอร์ฟิว หรือการห้ามออกจากเคหสถานตั้งแต่เวลา 21.00 - 04.00 น. เห็นว่ายังคงเดิม 308 คน ควรผ่อนคลาย 176 คน ควรยกเลิก 75 คน (คิดเป็นอัตราส่วน 4.11 : 2.35 : 1)
- อันดับ 11 ขนส่งสาธารณะได้ทุกประเภท จำกัดผู้โดยสารไม่เกิน 75% เห็นว่ายังคงเดิม 291 คน ควรผ่อนคลาย 224 คน ควรยกเลิก 44 (คิดเป็นอัตราส่วน 6.61 : 5.09 : 1)
- อันดับ 12 ตลาดสด ตลาดนัด ถนนคนเดิน เปิดถึง 20.00 น. เห็นว่ายังคงเดิม 289 คน ควรผ่อนคลาย 212 คน ควรยกเลิก 58 คน (คิดเป็นอัตราส่วน 4.98 : 3.66 : 1)
- อันดับ 13 เจ้าหน้าที่และบุคลากรของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งขั้นสูงสุด (Work from home) เห็นว่ายังคงเดิม 269 คน ควรผ่อนคลาย 231 คน ควรยกเลิก 59 คน (คิดเป็นอัตราส่วน 4.56 : 3.92 : 1)
- อันดับ 14 คลินิกเสริมความงามให้เปิดสำหรับการจำหน่ายสินค้าเท่านั้น เห็นว่ายังคงเดิม 264 คน ควรผ่อนคลาย 234 คน ควรยกเลิก 61 คน (คิดเป็นอัตราส่วน 4.33 : 3.84 : 1)
- อัันดับ 15 ร้านนวด เปิดได้เฉพาะนวดเท้า เห็นว่ายังคงเดิม 257 คน ควรผ่อนคลาย 229 คน ควรยกเลิก 73 คน (คิดเป็นอัตราส่วน 4.21 : 3.75 : 1)
- อันดับ 16 ร้านอาหารที่อยู่นอกอาคารที่มีอากาศไหลเวียนได้ หรือในอาคารแต่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ อนุญาตให้ลูกค้านั่งรับประทานในร้านได้ 75% ของพื้นที่ แต่ไม่เกิน 50 คน เห็นว่ายังคงเดิม 255 คน ควรผ่อนคลาย 233 คน ควรยกเลิก 71 คน (คิดเป็นอัตราส่วน 3.59 : 3.28 : 1)
เห็นว่า "ควรผ่อนคลาย" เรียงตามจำนวนความเห็นจากมากไปหาน้อย
- อันดับที่ 1 ร้านเสริมสวย ร้านตัดผมหรือแต่งผม สามารถให้บริการไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อคน เห็นว่าควรผ่อนคลาย 256 คน ยังคงเดิม 236 คน และควรยกเลิก 67 คน ควรผ่อนคลาย 242 คน (อัตราส่วน 3.82 : 3.52 : 1)
- อันดับที่ 2 ร้านอาหารขนาดเล็ก หาบเร่ แผงลอย รถเข็น ให้ผู้บริการและผู้รับบริการปฏิบัติตามเกณฑ์ แต่ไม่เกิน 25 คน ในกรณีที่นั่งบริโภคอาหารในร้าน เห็นว่าควรผ่อนคลาย 235 คน ยังคงเดิม 234 คน และควรยกเลิก 90 คน (อัตราส่วน 2.61 : 2.60 : 1)
- อันดับที่ 3 สนามกีฬาและสวนสาธารณะ รวมทั้งสนามกีฬาในที่ร่มที่เป็นที่โล่งอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีระบบปรับอากาศเปิดบริการได้ โดยกำหนดระยะเวลาเปิดถึง 20.00 น. เห็นว่าควรผ่อนคลาย 242 คน ยังคงเดิม 239 คนควรยกเลิก 78 คน (อัตราส่วน 3.10 : 3.06 : 1)
|
แนวโน้มผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 วันข้างหน้า ไม่ต่ำกว่า 400 คน/วัน |
ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะอื่นๆ (คำถามปลายเปิด)
- ควรมีมาตรการตรวจหาเชื้อเชิงรุกให้มากขึ้น และปิดสถานประกอบการที่มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วเพื่อลดการแพร่ของเชื้อลง จัดการมาตราการต่าง ๆ ให้รัดกุมขึ้นโดยเฉพาะในโซนโรงงานต่าง ๆ ควรเข้มงวดและเพิ่มความสะดวกในการตรวจให้มากขึ้น ทำการตรวจเชิงรุกทั้งหมดของคนราชบุรี ทุกกลุ่ม ทุกชุมชน รวมถึงพื้นที่เสี่ยง เช่น ตลาดค้าส่ง โรงงาน แรงานต่างด้าว และชุมชนแออัด โดยเฉพาะคนในโรงงาน นำเชื้อออกมาสู่ครอบครัวแล้วกระจายไปยังสังคม การตรวจ ATK แต่ละบ้านสำคัญ และควรตรวจอย่างเข้มข้นกับพวกแรงงานต่างชาติด้วย ซึ่งมีอยู่จำนวนมากและชอบจับกลุ่มกินเหล้าและกินอาหารรวมกัน ตรวจเชิงรุกกับทุกโรงงาน และฟาร์มขนาดใหญ่ เพิ่มการคัดกรอง และใช้มาตรการอย่างจริงจังในสั่งปิดโรงงานที่เป็นคลัสเตอร์ และสั่งให้มีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด ตรวจสอบโรงงานให้เข้มงวดกว่าเดิม (26 คนที่มีความเห็น)
- การบริหารสถานการณ์ในภาพรวมไม่ดีนัก ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมาโดยตลอดติด 1 ใน 10 ของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ตัวบ่งชี้นี้แสดงว่ามาตราการที่อ่อนไป ทั้ง ๆ ที่ประชากรก็ไม่มาก ถ้าเทียบร้อยละการป่วยกับจำนวนประชากรแล้ว ควรมีการประสานกับนายอำเภอแต่ละอำเภออย่างใกล้ชิด ข้าราชการที่ดูแลเรื่องนี้ หลายคนทำงานไม่จริงจัง ทำให้เกิดคนติดเชื้อเพิ่มทุกวัน ยอดคนติดเชื้อส่วนมากมาจากแรงงานต่างด้าว ควรจัดระบบการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ให้ดีกว่านี้ ขอให้ ผวจ.ราชบุรี ทำงานอย่างจริงจังกว่านี้ ล็อคดาวน์ไม่เกิดประโยชน์ ถ้าทุกคนไม่ตระหนักที่จะป้องกันการรับและเเพร่เชื้อ ล็อคกับไม่ล็อคมีค่าเท่ากัน เพราะ ปชช. ต้องป้องกันตัวเอง ข้าราชการไทยควรออกมาบริการประชาชน ให้เหมือนบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ใช่เอาแต่ WFH (25 คนที่มีความคิดเห็น )
- มาตรการล็อกดาวน์ที่ประกาศใช้ ขาดการควบคุม ติดตาม กำกับดูแลอย่างจริงจัง เด็ดขาด และเข้มงวด บางพื้นที่ยังมีการอนุโลม เมื่อมีการฝ่าฝืนมาตรการควรมีบทลงโทษที่จริงจังมากกว่าเดิม ไม่ใช่คงเดิม ทางจังหวัดควรประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึงกว่านี้ ควรจัดเจ้าหน้าที่ออกสำรวจตามหมู่บ้านให้ทั่วถึงกว่าเดิม เข้มงวดเรื่องการรวมกลุ่ม หรือการซื้อของ การเว้นระยะห่าง การใส่หน้ากากอนามัย ดำเนินการทางกฎหมายให้เด็ดขาด ไม่ควรมีการปกปิดข้อมูลพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค การเปิดห้างควรที่จะมีมาตการเข้มยิ่งกว่านี้ เพราะทุกวันนี้ คนออกมาเดินห้างมากขึ้นโดยที่บางคนก็ระวังแต่บางคนก็ไม่ระวัง หรือไม่เกรงกลัว บางกลุ่มยังนั่งกินอาหารแบบรวมกลุ่ม ไม่สนใจไม่ให้ความร่วมมือ (19 คนที่มีความคิดเห็น)
- การล็อกดาวน์ ควรมีการเยียวยาประชาชน ผู้ประกอบการ ลูกจ้าง และผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง ช่วยหยุดและพักชำระหนี้ แต่ถ้าไม่สามารถเยียวยาได้ ก็ควรเปิดให้คนทุกอาชีพได้ทำงานหาเลี้ยงชีพอย่างเสรี แต่เพิ่มมาตรการการดูแลตัวเองให้กับประชาชน มากกว่าการล็อกดาวน์ สั่งปิดสั่งหยุดทุกอย่าง ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น เศรษฐกิจเสียหาย ไม่ควรปิดกิจการบริการสังคมที่จำเป็นต่อเนื่องกันเป็นเวลานานเกิน 3 เดือน ล็อคดาวน์ไม่ช่วยให้ดีขึ้น เพราะเท่ากับเป็นการทำลายอาชีพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ (9 คนที่มีความคิดเห็น)
- ควรเร่งฉีดวัคซีน กระจายจุดฉีดวัคซีนให้ทั่วถึง เร็วกว่านี้ และควรเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง หาวัคซีนฉีดให้กับประชาชนตามทะเบียนบ้านเลย ไม่ต้องมาลงทะเบียน ควรให้สิทธิ์ในการลงทะเบียนฉีดวัคซีนทางเลือกกับคนที่มีบัตรทอง (บัตร 30 บาท) ที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลในจังหวัดราชบุรี ไม่ใช้ให้ลงได้เฉพาะคนที่มีบัตรประชาชนเป็นคนราชบุรี หรือเพื่อซื้อใจหวังผลการเลือกตั้งครั้งต่อไป (8 คนที่มีความคิดเห็น)
- ยังมีเด็กวัยรุ่นรวมตัวแข่งรถบนถนนสาธารณะช่วงเคอร์ฟิว และนั่งจับกลุ่มดื่มสุรา ร้องเรียนหน่วยงานไหนก็ไม่มีใครมาดู ควรมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครองออกตรวจกวดขัน ควรเข้มงวดเวลาเคอฟิวส์ให้มากขึ้นในทุกพื้นที่ (7 คนที่มีความคิดเห็น)
- ยังไม่ควรเปิดเรียนเพราะเด็ก ๆ ยังไม่รู้จักป้องกันตัวเอง (1 คนที่มีความคิดเห็น)
- ข้าราชทำผิดเองต้องมีโทษ 2 เท่า ไม่มีการละเว้น (1 คนที่มีความคิดเห็น)
สรุป ชาวราชบุรี ร้อยละ 50.27 เห็นว่ามาตรการล็อกดาวน์ที่ผ่านมาไม่ค่อยประสบความสำเร็จ และร้อยละ 47.76 อยากให้ล็อกดาวน์ต่อไป และให้มีมาตรการเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม หลังวันที่ 14 ก.ย.2564 มาตรการล็อกดาวน์ที่ควรผ่อนคลายจำนวน 3 มาตรการ ที่เหลือยังคงเดิม
*****************************
ราชบุรีโพล ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยกรุณาตอบแบบสำรวจในครั้งนี้
ความคิดเห็นของท่านมีประโยชน์เสมอ
Your voice Always useful