วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ท่าเทียบเรือวัดพญาไม้ : ลอยอังคารหน้าวัดท่าสุวรรณ

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2564  ผมได้มีโอกาสคุยกับ ลุงโกมลฯ ซึ่งประกอบกิจการให้เช่าเรือท่องเที่ยวและลอยอังคาร ที่ท่าเทียบเรือวัดพญาไม้ อ.เมือง จ.ราชบุรี เพื่อเก็บข้อมูลเตรียมทำโครงการวิจัยฯ เสนอให้ผู้บริหารบ้านเมืองที่เกี่ยวข้องได้ลองพิจารณาทบทวนความเป็นไปได้อีกครั้ง


เริ่มสมัยนายกฯ เปี๊ยก
ลุงโกมล เล่าอย่างอารมณ์ดีให้ฟังว่า ตัวเขามาจากนครชัยศรี มาประกอบกิจการเรือท่องเที่ยวตามคำชักชวนของนายพิชัย นันทชัยพร นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรีในขณะนั้น ซึ่งตั้งใจที่จะพัฒนาการท่องเที่ยวทางน้ำให้เกิดเป็นรูปธรรม  โดยเริ่มจัดตั้งตลาดโคยกี้ ชักชวนให้ผู้คนและนักท่องเที่ยวที่มา ลงเรือไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามวัดต่าง ๆ  ริมน้ำแม่กลอง โดยขั้นต้น นำร่องเป็น "เรือโดยสารจากท่าเรือหน้าหอนาฬิกาไปไหว้พระและนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดพญาไม้" 

"ตอนนั้น รายได้ดี พออยู่ได้ ต่อมาก็มีการเช่าเหมาลำไปเลี้ยงสังสรรค์ และท่องเที่ยวตามวัดวาอารามต่าง ๆ  แต่วันนี้รายได้หลัก กลับกลายเป็นการเช่าเรือไปลอยอังคาร"  ปัจจุบัน ลุงโกมล มีเรือให้เช่า 3 ลำ และมีเรือที่ใช้เป็นบ้านที่อยู่อาศัยส่วนตัว 1 ลำ จอดอยู่ท่าเทียบเรือวัดพญาไม้

เรือส่วนตัวที่ลอยลำใช้เป็นบ้านที่อยูอาศัย

ท่าเทียบเรือวัดพญาไม้
เป็นท่าเทียบเรือด้านฝั่งซ้ายของแม่น้ำแม่กลอง อยู่ในเขตเทศบาลตำบลหลักเมือง ห่างจากสะพานสิริลักษณ์ไปทางด้านเหนือน้ำประมาณ 400 เมตร เป็นท่าเทียบเรือที่สร้างโดยวัดพญาไม้ เป็นท่าเรือขนาดกลางสามารถพัฒนาต่อยอดเป็นท่าเทียบเรือสำหรับบริการนักท่องเที่ยวได้ ปัจจุบันมีแต่เฉพาะเรือของลุงโกมล เท่านั้นที่เทียบท่าอยู่

ที่ลอยอังคาร บ่อทองคำเก่า หน้าวัดท่าสุวรรณ

ลอยอังคาร-วัดท่าสุวรรณ 
รายได้หลักของลุงโกมล คือ การเช่าเรือไปลอยอังคาร ราคาจะอยู่ครั้งละ 1,500 บาท ค่าดอกไม้ธูปเทียน  300 บาท ค่าครูแล้วแต่จะให้ ลุงโกมลเป็นทั้งกัปตันเรือและคนทำพิธี ลุงโกมล เล่าให้ฟังว่าสถานที่ที่เหมาะแก่การลอยอังคาร ไม่ใช่วัดเกาะนัมมทาปทวลัญชาราม ตรงนั้นน้ำจะวน มีความเชื่อว่า หากลอยอังคารตรงนั้น ดวงวิญญาณผู้ตายจะวนไปวนมาไม่ได้ไปผุดไปเกิด  

สถานที่ลอยอังคารที่ดีที่สุดในบริเวณนี้ คือ "บริเวณแม่น้ำหน้าวัดท่าสุวรรณ" เชื่อกันว่า ที่บริเวณท้องน้ำหน้าวัดแห่งนี้ เป็นบ่อทองคำเก่า เพราะวัดท่าสุวรรณ เดิมชื่อ “วัดท่าทอง”  ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2301 ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย การลอยอังคารที่นี่ มีความเชื่อว่า หากผู้ตายเกิดในชาติหน้าจะได้มั่งมีศรีสุข ร่ำรวยเงินทอง และลูกหลานที่นำอัฐิไปลอยบริเวณนี้ ก็จะมั่งมีศรีสุข ร่ำรวยเงินทองไม่ขัดสน เช่นกัน
 
ท้องน้ำหน้าวัดท่าสุวรรณ ซึ่งเป็นบ่อทองคำเก่า

วัดท่าสุวรรณ ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ต.คุ้งน้ำวน อ.เมือง จ.ราชบุรี ล่องเรือจากตัวเมืองราชบุรีไปด้านท้ายแม่น้ำแม่กลองประมาณ 10 กิโลเมตร มีอุโบสถ (หลังเก่า) และเจดีย์เก่า ได้รับการบูรณะและขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ปัจจุบันมีการสร้างเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ไว้สักการะ ด้านติดริมถนนหน้าวัด


ความคาดหวัง  
ลุงโกมล เล่าต่อว่า หลังจากนายกฯ เปี๊ยก ไม่ได้เป็นนายกเทศมนตรีเมืองราชบุรีแล้ว ก็ไม่มีใครสนใจสานต่อ สภาพท่าเทียบเรือวัดพญาไม้ จึงเงียบเหงาแลเห็นเป็นสภาพเช่นนี้  มีคณะผู้หลักผู้ใหญ่หลายคณะมาพูดคุยด้วย บ้างก็เช่าเหมาเรือออกไปลอยลำท่องเที่ยวดู ก็เห็นว่าดีจะกลับไปพัฒนาต่อ แต่ทุกอย่างก็เงียบหายไป 

ทุกวันนี้ ลุงโกมลฯ อยู่ได้ก็เพราะมีคนตาย หลังจากเผาศพแล้วต้องเช่าเรือไปลอยอังคาร ซึ่งเป็นรายได้หลัก ไม่ใช่รายได้จากนักท่องเที่ยวหรือนักแสวงบุญ ตามที่เคยตั้งความหวังไว้ 

เรือลำนี้ ให้เช่าสำหรับนักท่องเที่ยว หรือเลี้ยงสังสรรค์
มีห้องน้ำ ห้องครัว เครื่องเสียงและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ร่วมด้วยช่วยกัน
แนวคิดเรื่องการพัฒนาแม่น้ำแม่กลองของ จ.ราชบุรี ให้เป็น "ศูนย์กลางการท่องเที่ยววิถีชีวิต ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรมและกีฬาทางน้ำ"  (อ่านรายละเอียด)  มีมาหลายยุคหลายสมัย หลายผู้ว่า หลายนายก แต่ดูเหมือนไม่สำเร็จ เพราะไม่มีการต่อยอด ขาดพลังของคนราชบุรีที่จะช่วยกันผลักดัน หากทุกภาคส่วนหันกลับมาร่วมมือกันอย่างจริงจังแล้ว "แม่น้ำแม่กลองจะกลับมามีชีวิต และสามารถสร้างรายได้ให้แก่คนลุ่มน้ำกลองอีกครั้ง อย่างในอดีต"

*******************************
ชาติชาย คเชนชล : 21 มิ.ย.2564

1 ความคิดเห็น:

บทความที่ได้รับความนิยม