วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ผลสำรวจสถานะการฉีดวัคซีนโควิด-19 ใน จ.ราชบุรี

ผู้ที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีนในทุกช่องทางแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการนัดหมาย สูงถึงร้อยละ 65.1 และหากวัคซีนมีจำนวนจำกัด คนราชบุรี ร้อยละ 25.6 บอกว่า ตัวเองรอได้ ฉีดให้คนอื่นที่จำเป็นก่อน

แบบสำรวจ "สถานะการฉีดวัคซีนโควิด-19 ใน จ.ราชบุรี"  จัดทำขึ้นโดย ราชบุรีโพล สถาบันราชบุรีศึกษา มีวัตุประสงค์เพื่อสำรวจสถานะและความเห็นในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของคนใน จ.ราชบุรี เพื่อนำข้อมูลที่ได้เสนอไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และเพื่อใช้ในการวางแผนยุทธศาสตร์การบริหารวัคซีนของ จ.ราชบุรีให้มีประสิทธิภาพต่อไป ระยะเวลาในการสำรวจ 23-30 มิ.ย.2564 ผลการสำรวจสรุปได้ ดังนี้ 



คำถามที่ว่า ปัจจุบัน ท่านอยู่ในสถานะใดของการฉีดวัควีน
มีผู้ตอบแบบสำรวจจำนวน 370 คน ผลการสำรวจเรียงจากมากไปหาน้อย ได้ดังนี้
  • อันดับ 1 ผู้ที่ลงทะเบียนในทุกช่องทางแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการนัดหมาย จำนวน 241 คน คิดเป็นร้อยละ 65.1
  • อันดับ 2 ผู้ที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 แล้ว จำนวน 40 คน คิดเป็นร้อยละ 10.8
  • อันดับ 3 ผู้ที่ลงทะเบียนแล้ว และได้รับวันนัดหมายฉีดวัคซีนแล้ว จำนวน 33 คน คิดเป็นร้อยละ 8.9
  • อันดับ 4 ผู้ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนที่ใดเลย จำนวน 28 คน คิดเป็นร้อยละ 7.6
  • อันดับ 5 ผู้ที่รอฉีดวัคซีนยี่ห้อที่ต้องการ โดยจ่ายเงินเอง จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 3.2
  • อันดับ 6 ผู้ไม่ประสงค์ฉีดวัคซีน จำนวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 3
  • อันดับ 7 ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 1.4
จากผลการสำรวจพอสรุปได้ว่า คนราชบุรี ร้อยละ 97 ประสงค์จะฉีดวัคซีน แต่ผู้ที่ลงทะเบียนแล้วยังไม่ได้รับการนัดหมาย สูงถึง ร้อยละ 65.1 นั้นแสดงให้เห็นว่า จ.ราชบุรี ไม่ทราบว่าจะได้รับการจัดสรรวัคซีนจากรัฐบาลมาจำนวนเท่าใด และเมื่อใด จึงไม่สามารถนัดหมายได้ผู้ที่ลงทะเบียนได้ 

ท่านคิดว่าท่านควรจะได้รับการพิจารณาลำดับการฉีดวัคซีนอย่างไร
จากคำถามที่ว่า เนื่องจากจำนวนวัคซีนที่ได้รับจากรัฐบาลทยอยจัดส่งมายัง จ.ราชบุรี เป็นงวด ๆ และวัคซีน "ซิโนฟาร์ม" ที่ อบจ.ราชบุรี หรือ อปท.อื่น ๆ จัดซื้อเพิ่มเติม มีจำนวนจำกัด จึงจำเป็นต้องมีการจัดลำดับการฉีดวัคซีนก่อนและหลัง ท่านคิดว่าท่านควรจะได้รับการพิจารณาลำดับการฉีดวัคซีนอย่างไร ผลสำรวจความเห็นการจัดลำดับการฉีดวัคซีน จำนวน 328 คน สรุปได้ดังนี้
  • ร้อยละ 36.19 ควรได้รับการฉีควัคซีนในลำดับต้น ๆ
  • ร้อยละ 26.67  เห็นว่าตัวเองรอได้ ฉีดให้คนอื่นที่มีความจำเป็นก่อน
  • ร้อยละ 23.81 เห็นว่าตัวเองควรได้รับการฉีดวัคซีนเป็นลำดับแรก
  • ร้อยละ 12.70 เห็นว่าตัวเองควรได้รับการฉีดเป็นลำดับกลาง ๆ
  • ร้อยละ 0.63 ไม่ฉีด

เพราะเหตุใด ท่านจึงคิดว่า ท่านควรได้รับการพิจารณาฉีดวัคซีนเป็นลำดับแรก ก่อนคนอื่น

จากคำตอบที่ผู้ตอบแบบสำรวจ ที่เห็นว่าตัวเองควรได้รับการฉีดวัคซีนเป็นลำดับแรก ประกอบด้วยเหตุผลต่าง ๆ พอสรุปได้ดังนี้

เหตุผลส่วนใหญ่ เป็นครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่จัดการเรียนการสอน ต้องสัมผัสและใกล้ชิดกับนักเรียนเกือบตลอดทั้งวัน ซึ่งตัวนักเรียนก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ดังนั้นครูจึงควรมีภูมิคุ้มกัน และยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ พ่อแม่ผู้ปกครอง ในการส่งบุตรหลานมาเรียน ครู และบุคลากรในโรงเรียน ควรได้รับการฉีดวัคซีน  ก่อนที่โรงเรียนจะเปิดเทอมอีกครั้ง เพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง 

เหตุผลอื่น ๆ  
  • ทำงานเสริมสวย ต้องพบลูกค้าจำนวนมาก จำเป็นต้องป้องกันเพื่อตัวเองและป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่คนอื่น 
  • ต้องเดินทางไปทำงานพื้นที่เสี่ยง 
  • ทำงานท่ามกลางคนหมู่มาก
  • เพราะเป็นผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง
  • อายุ 71 ปี ดูแลแม่อายุ 102 ปี
  • อายุ 48 ปี เป็นโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียและอยู่ในตลาดชุมชน ในครอบครัวยังมีผู้สูงอายุและเด็กอีกด้วย 
  • มีอาชีพค้าขาย ทำให้พบคนจำนวนมาก หลากหลาย  
  • เป็นครู กศน. ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในชุมชน พบปะนักศึกษา ประชาชนทั่วไป เป็นประจำในการจัดกิจกรรม 
  • เป็นนักศึกษาต้องเรียนร่วมกับนักศึกษาที่มาจากหลายจังหวัด หลายพื้นที่
  • ในที่ทำงาน มีเพื่อนร่วมงานที่เดินทางมาพื้นที่เสี่ยง (กรุงเทพ​ นครปฐม)​ ​ 
  • เป็น​สื่อมวลชน​ ที่ต้องไปทำข่าวในสถานที่ต่าง ๆ พบปะกับผู้คนหลากหลาย
  • เปิดร้านข้าวแกงอยูในพื้นที่เสี่ยง มีลูกค้าจำนวนมากในแต่ละวัน ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในตัวลูกค้าที่มารับประทานอาหารที่ร้าน 
  • ต้องเดินทางไปขายของในพื้นที่ควบคุม และในบ้านมีเด็ก 3 คน ผู้พิการอายุ 70 กว่าอีก1คน ต้องเจอกับนักเรียน 
  • เป็นสามีของพยาบาลซึ่งทำงานอยู่ด่านหน้า
  • เพราะทำงานด้านบริการที่พัก พบปะลูกค้าตลอด เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • เป็นข้าราชการที่มีหน้าที่รับผิดชอบงานหลายจังหวัด และจำเป็นต้องเดินทางไปพื้นที่ควบคุมสูงสุด/มีการระบาดหนัก เกรงว่าตัวเองมีความเสี่ยงที่จะนำเชื้อมาระบาดใน จ.ราชบุรี 
  • ต้องดูแลลูกชายอายุ 11 ปีเพียงลำพังเพราะสามีไปทำงานอยู่ต่างประเทศ ปัจจุบันพักอาศัยอยู่กับลูกชายที่คอนโดมิเนียมขนาดใหญ่กลางใจเมืองราชบุรี (ห้องชุด 160 ยูนิต มีผู้พักอาศัยอยู่กว่า 100 ครอบครัว) ซึ่งถือเป็นสถานที่เสี่ยงสูงในการที่จะได้รับเชื้อจากโรคระบาดโควิด-19 ได้ง่าย

*******************************************
ราชบุรีโพล ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยกรุณาตอบแบบสำรวจในครั้งนี้
ความคิดเห็นของท่าน มีประโยชน์เสมอ
Your voice Always useful



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม